อุบัติเหตุและ การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาลแมวที่หยุดหายใจ
ท่านที่เลี้ยงแมวอาจจะประสบเรื่องราวเกี่ยวกับอุบัติเหตุของเจ้าเหมียวมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตกน้ำ ถูกไฟดูด ถูกรถชน หรืออาจจะไปกัดกันกับแมวด้วยกันมา เป็นต้น และหากแมวของท่านอาการหนักถึงขั้นมีอาการหยุดหายใจ ท่านควรปฏิบัติตามวิธีดังนี้
1. ตรวจดูว่ามีอะไรติดค้างอยู่ในปากและจมูกของแมวหรือไม่ เช่นเศษอาหาร น้ำมูก หากพบว่ามี ให้กำจัดออก ด้วยการยกขาหลังของแมวขึ้นในท่าห้อยหัวลง แล้วสั่นแรงๆ 5 - 6 ครั้ง หรือจัดให้นอนตะแคงบนพื้นราบ แล้วใช้ปากคีมหนีบเขี่ยสิ่งนั้นให้พ้นทาง
2. จัดแมวนอนตะแคงเอาด้านขวาลง ดันหัวให้หงายไปด้านหลัง จับปากให้หุบ
3. หาผ้าบางๆมาคลุมบริเวณจมูกของแมว
4. เริ่มช่วยหายใจด้วยการใช้ปากต่อจมูก คือประกบปากลงกับผ้าที่คลุมจมูกแมวอยู่แล้วเป่าลมหายใจสั้นๆเข้าไป 5 - 6 ครั้ง หากเป็นลูกแมวให้เป่าเบาลง โดยปากของแมวต้องหุบเสมอ
5. ถ้าแมวเริ่มหายใจให้หยุดได้ แต่ต้องดูอาการก่อนส่งสัตวแพทย์
6. หากแมวยังหายใจเองไม่ได้ ให้ใช้วิธีปากต่อจมูกต่อไป ในอัตรา 1 ครั้ง ต่อทุกๆ 2 - 3 วินาที
7. ช่วยหายใจไปจนกว่าแมวจะหายใจเองได้ แล้วดูอาการก่อน
8. ถ้าช่วยหายใจเกินกว่า 10 นาที แมวยังหายใจเองไม่ได้ ให้ตรวจดูว่าเหงือกและลิ้นเป็นสีน้ำเงินหรือเขียวหรือไม่ ม่านตาขยายเบิกโพลง ไม่มีอาการกระพริบตาเมื่อถูกกระตุ้น แสดงว่าแมวตัวนั้นจบชีวิตแล้ว
หมายเหตุ : ไม่ควรใช้วิธีนี้กับแมวที่ไม่ทราบประวัติมาก่อน เพราะท่านอาจจะได้รับเชื้อโรคต่างๆได้
เมื่อแมวกินยาเบื่อยาพิษ
หากแมวของท่านไปกินวัตถุมีพิษ เช่นยาเบื่อหนู พืชมีพิษ เป็นต้น อาการที่สังเกตได้ชัดคือ ลิ้นและปากซีด ชัก อาเจียน น้ำลายฟูมปาก ตัวและขาทั้ง 4 แข็งเกร็ง เดินโซเซหมดแรง หากแมวของท่านปรากฏอาการดังนี้ แน่ชัดว่าน่าจะได้รับสารพิษ จึงควรรีบทำการช่วยชีวิตอย่างเร็วที่สุด ด้วยการให้แมวขจัดสารพิษนั้นออกมา โดยการทำให้แมวอาเจียนด้วยการกรอกน้ำอุ่นผสมเกลือที่มีรสเค็มเข้าไปในปากแมว แมวจะอาเจียนออกมา หรือหากพบคราบของสารพิษรอบปาก ควรเช็ดทำความสะอาดให้ด้วย ต่อไปคือการขจัดสารพิษที่หลงเหลือด้วยการใช้ถ่านหรือไข่ขาว วิธีทำก็คือ นำถ่านตำให้ละเอียด เติมน้ำลงไปเล็กน้อยแล้วกรอกให้แมวกิน หรืออาจจะใช้ไข่ขาวดิบ 1 ฟองตีผสมกับน้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ แล้วกรอกให้แมวกินก็ได้ จากนั้นควรเก็บตัวอย่างสารพิษหรือฉลากยาที่แมวกินไว้ แล้วนำแมวและตัวอย่างยานั้นไปพบสัตวแพทย์ทันทีเพื่อทำการรักษาต่อไป
แมลงสัตว์กัดต่อย
เมื่อแมวถูกสัตว์มีพิษเช่นผึ้งหรือตะขาบต่อยที่ใบหน้า แขนขา หรือบริเวณต่างๆ ถ้าแมวไม่มีอาการแพ้ก็จะหายได้เอง แต่ถ้ามีอาการแพ้ ก็จะปรากฏว่าแมวของท่านหน้าตาบวม ตาบวมปิด บริเวณที่ถูกพิษจะบวมขึ้น อาการที่อันตรายคือหายใจไม่ออก อาจทำให้ช็อกได้ การปฐมพยาบาลสามารถทำได้โดยการดึงเหล็กในของแมลงที่ต่อยออกให้หมด ประคบบริเวณที่ต่อยด้วยน้ำเย็นหรือน้ำแข็งก่อนนำส่งสัตวแพทย์ต่อไป แต่หากแมวถูกงูพิษกัด ให้รีบชะลอพิษด้วยการให้กินยาแก้แพ้และนำส่งโรงพยาบาลทันที และควรบอกชื่องูหรือนำซากงูนั้นไปให้แพทย์ดูด้วยจะดีมาก
การห้ามเลือด
เลือดออกนั้นมีสาเหตุหลายประการ แต่ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากบาดแผล เช่นถูกบาด ถูกกัด เมื่อเจ้าของพบอาการเลือดไหลเกิดขึ้นกับแมวของท่านแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือห้ามเลือดและป้องกันเชื้อโรคเข้าบาดแผล การห้ามเลือดทำได้ตั้งแต่วิธีกดบริเวณที่มีเลือดไหลออกมาด้วยผ้ากอซหรือผ้าสะอาดสักพักหนึ่งเลือดก็จะหยุดไหล ถ้าเป็นแผลที่ไม่ได้มาจากเส้นเลือดใหญ่ฉีกขาด ในกรณีที่เป็นแผลกว้าง โดยเฉพาะบริเวณขา อาจต้องใช้วิธีขันชะเนาะ หรือใช้เชือกหรือเศษผ้ารัดเหนือบาดแผลแล้วควั่นให้ตึงจะสามารถห้ามเลือดได้ แต่ต้องคลายออกเป็นระยะ เพื่อให้เลือดไปหล่อเลี้ยงตรงส่วนนั้นๆได้ ส่วนช่วงลำตัวคือช่วงอกและท้อง หากมีบาดแผลเลือดออกแล้ว จะต้องรีบใช้ผ้ากอซกดบาดแผล พันรัดให้แน่นแล้วรีบนำส่งสัตวแพทย์โดยเร็ว เพราะหากมีเลือดออกในบริเวณดังกล่าวมากๆ อาจเกิดจากการฉีกขาดของอวัยวะภายในอย่างรุนแรงก็เป็นได้
การทำแผล
บาดแผลของแมวส่วนใหญ่มักเกิดจากการกัดกัน ถูกของมีคมบาด เป็นต้น แผลอาจจะมีขนาดต่างกันไป แต่หลักการทำแผลนั้นมีความคล้ายคลึงกัน คือถ้ามีเลือดออกมาก จะต้องทำการห้ามเลือดเสียก่อน ในกรณีบาดแผลธรรมดา เช่น แผลที่อุ้งเท้า ก่อนอื่นต้องทำความสะอาดแผลก่อนด้วยน้ำสะอาด ซับให้แห้ง ตรวจดูว่าไม่มีเศษสกปรกติดอยู่ จากนั้นจึงใส่ยาประเภทใส่แผลสด ใช้ผ้าพันแผลพันทับ ก่อนพาไปพบสัตวแพทย์ เพราะบาดแผลบางแผลอาจต้องการการเย็บ หากสงสัยว่าจะเป็นแผลติดเชื้อ เช่นโรคพิษสุนัขบ้า ควรมีการใส่ถุงมือยางก่อนการทำแผล หากเป็นการทำแผลจากอุบัติเหตุ เช่นรถชน แมวจะเจ็บปวดจนแสดงอาการดุร้าย และอาจจะทำร้ายเราได้ ดังนั้นควรหาผ้าหนาๆหรือกระสอบคลุมหัวแมวเสียก่อน หรือจะใช้ผ้าพันรอบปาก ก่อนทำแผล แล้วนำส่งสัตวแพทย์ทันที
กระดูกหัก
แมวที่ตกจากที่สูง รถชน ถาไม่ตายอาจจะทำให้กระดูกหักหรือกระดูกเคลื่อน โดยมักจะเกิดกับบริเวณขา การปฐมพยาบาลที่ถูกต้องคือการเข้าเฝือก สามารถทำได้โดยใช้วัสดุใกล้ตัว เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์ ม้วนเป็นท่อนจนแข็ง นำมาดามกับขาส่วนที่หัก ใช้ผ้าเทปพันไม่ให้หลุด นอกจากนั้นอาจใช้ไม้ท่อนเล็กๆหรือท่อพลาสติกแทนก็ได้ การเข้าเฝือกก็เพื่อไม่ให้เกิดการขยับของกระดูกส่วนที่หัก และต้องไม่บีบรัดเส้นเลือดจนไม่อาจหมุนเวียนได้ ซึ่งสังเกตได้จากปลายเท้าที่บวมเพราะเลือดไม่ไหลเวียน เพื่อป้องกันการขยับของเฝือกควรพันเฝือกให้พ้นข้อที่อยู่เหนือและใต้ตำแหน่งที่หัก หลังจากนั้นรีบนำส่งสัตวแพทย์ทันที
อาการช็อก
หลังจากแมวได้รับอุบัติเหตุ อาจจะทำให้เกิดอาการช็อกขึ้นได้ สังเกตได้คือ การทรงตัวไม่อยู่ ปากและขาเย็น เหงือก ลิ้น และเปลือกตาด้านในซีด ไม่มีเลือด ตัวเย็น บางรายมีอาการหอบและกระสับกระส่าย อ่อนแรงและอาจตายได้ สิ่งที่ต้องปฏิบัติคือ แก้ไขต้นเหตุของอาการช็อก เช่นถ้ามาจากเสียเลือดมากก็ควรห้ามเลือดก่อน และควรช่วยในด้านการไหลเวียนของโลหิต เช่นให้แมวนอนหัวต่ำกว่าลำตัว เลือดจะได้ไปเลี้ยงดีขึ้น พร้อมกับนวดเฟ้นปลายเท้าเบาๆ พยายามรักษาความอบอุ่นของร่างกายด้วยการใช้ผ้าห่อตัวแล้วนำส่งสัตวแพทย์โดยด่วน
อาหารติดคอ
แมวที่มีอาการใช้ขาหน้าปัดหน้าตัวเอง ไอจามอย่างลำบาก ก้มหน้าก้มตาไอ น้ำลายไหลเป็นฟอง อาจเป็นไปได้ว่ามีสิ่งของบางอย่าง เช่นอาหารที่แมวกินไปติดคาอยู่ในลำคอ การแก้ไขควรทำโดยปลอบแมวให้ลดอาการตกใจ วางแมวลงบนโต๊ะจับแมวอ้าปากตรวจดูว่ามีสิ่งของติดอยู่ในลำคอหรือไม่ ส่วนใหญ่สิ่งของมักจะคาอยู่ระหว่างซอกฟันบนทั้งสองข้าง หรือแทงอยู่ตามซอกฟัน หรืออยู่ในลำคอ อาจค่อยๆใช้นิ้วหรือคีมเล็กๆคีบออกมา หากแมวไม่ยอมอยู่นิ่ง อาจให้สัตวแพทย์เป็นผู้ช่วยเหลือ
ตกน้ำ
หลังจากช่วยแมวขึ้นมาจากน้ำแล้ว ต้องทำให้น้ำออกจากปอดด้วยการจับขาหลังทั้งสองข้างแล้วห้อยหัวแมวลง น้ำจะไหลออกมาจากปาก หากทำได้ควรให้ผู้อื่นมาช่วยจับลิ้นแมวดึงมาไว้ทางข้างๆปาก ให้แมวนอนหงายลงบนพื้น ค่อยๆกดมืออย่างช้าๆเบาๆลงบนอกแมว ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ ประมาณ 1 นาที / 30 ครั้ง ระวังอย่ากดแรง เพราะซี่โครงของแมวบอบบางมาก อาจทำให้โลหิตออกจากปอดได้ เมื่อแมวหายใจเป็นปกติแล้ว ให้ใช้ผ้าห่อหุ้มแมวทำให้อบอุ่น แล้วให้นอนนิ่งๆ 2 - 3 ชั่วโมง
รถทับ
อุบัติเหตุเช่นนี้อาจเกิดได้บ่อย เนื่องจากแมวนั้นชอบไปนอนในที่ที่สงบ อบอุ่น ไร้การรบกวน ดังนั้น ใต้ท้องรถจึงเป็นที่ที่เหมาะสม หากเจ้าของออกรถด้วยการปล่อยเบรคมือก่อนติดเครื่อง แมวจะไม่รู้ตัวเพราะไม่มีเสียงเครื่องยนตร์ กว่าจะรู้ตัวล้อก็บดทับร่างเสียแล้ว หากโชคดีอาจจะโดนแค่บริเวณหางหรือขา หากโชคร้ายอาจจะโดนบริเวณท้องหรืออก แต่ที่หนักที่สุดก็คือหัว เพราะโดนทีเดียววิญญาณก็หลุดออกจากร่างแล้ว สำหรับกรณีแรกหากนำส่งโรงพยาบาลทันอาจจะรอด ดังนั้นก่อนออกจากบ้าน ควรจะตรวจดูให้ดีเสียก่อนว่ามีแมวนอนอยู่ที่ใต้ท้องรถ หรือมีลูกแมวไปนอนอยู่ในเครื่องรถยนต์หรือเปล่า เพราะ CatMaster ก็เคยประสบเหตุการณ์ทำนองนี้มาแล้วค่ะ ลูกแมวแอบปีนขึ้นไปนอนในเครื่องรถของเพื่อนบ้าน พอติดเครื่องปุ๊บ บิดคอหักเลย น่าสลดใจมากๆ ดังนั้นก่อนออกรถทุกครั้งสำรวจให้ดีก่อนนะคะ