ลิลลี่ ! สวยอันตรายต่อน้องแมว
ดอกลิลลี่สีขาวบริสุทธิ์มักเป็นสัญลักษณ์แทนหญิงสาวผู้อ่อนหวานละมุมละมัย ไร้เดียงสาและน่าทะนุถนอม
ความงามของลิลลี่นี่เองครับที่เรามักใช้นำมาประดับบ้าน ปักใส่แจกันไว้ในห้องนอน ห้องรับแขกหรือส่วนใดๆ ในบ้าน แต่..ลิลลี่ที่ขาวบริสุทธิ์นั้นก็ซ่อนพิษอันร้ายกาจไว้ด้วยเช่นกัน ลิลลี่มีด้วยกันหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น อิสเตอร์ ลิลลี่ ซึ่งมีลักษณะของดอกเหมือนกับลำโพงเครื่องเสียง หรือไทเกอร์ ลิลลี่ซึ่งมีดอกบานกว่า ทั้งสองชนิดต่างก็มีพิษเช่นกัน โดยเฉพาะต่อเจ้าแมวเหมียวแสนรักของหลายๆ ท่าน ขอเตือนให้ทราบเลยนะครับว่า ดอกไม้ชนิดนี้อาจทำให้แมวของคุณถึงตายได้ทีเดียว
ส่วนของพิษลิลลี่ พิษดอกลิลลี่เกิดกับสัตว์เลี้ยงนั้นมักมาจากความซนของเจ้าเหมียวเป็นเหตุ เช่น แมวตัว หนี่งเห็นดอกไม้สีสันสวยยวนใจ หรือนึกว่าขอเคี้ยวเล่นเพลินๆ ดี จะด้วยเหตุใดก็แล้วแต่ การกินไม่ว่าเป็นส่วนของดอกและใบ หรือแม้แต่เกสรล้วนมีพิษ มีการทดลองกับสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก เช่น กระต่าย หนู โดยให้กินส่วนของดอกลิลลี่ที่ทำให้เกิดอาการพิษต่อแมว ผลปรากฏว่า สัตว์เลี้ยงชนิดที่กล่าวในข้างต้น ไม่เกิดอาการผิดปรกติแต่อย่างใด ขณะที่ในร่างกายแมวตอบสนองต่อการกินดอกลิลลี่โดยส่งผลทำให้เกิดเนื้อตายที่ส่วนของไต ยังผลให้เกิดไตวายเฉียบพลันตามซึ่งนับว่ามีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตทีเดียว ในสุนัขมีอาการผิดปรกติเช่นกัน โดยพบว่าถ้ากินเข้าไปมากๆ จะทำให้เกิดปัญหาการหยุดนิ่งของระบบทางเดินอาหาร ไม่ทำงานตามปรกติ เหตุผลในความต่างอันนี้ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่สังเกตไหมครับว่า ความแตกต่างของชนิดสัตว์ก็มีผลต่อระดับของการเกิดพิษด้วยเช่นกัน
อาการหลังจากที่ได้รับพิษ แมวตัวที่กินส่วนต่างๆ ของดอกลิลลี่เข้าไปจนเกิดพิษนั้นมีอาการเริ่มต้นคือ น้ำลายไหลและอาเจียนตามมา บางตัวอาเจียนไม่มาก บางตัวอาเจียนแล้วอาเจียนอีกไม่หยุดเสียที และอาการในช่วงแรกที่เห็นนี้อาจเกิดขึ้นกี่นาทีหลังจากที่ได้กินดอกไม้ชนิดนี้ หรือเกิดหลังจากนั้นนานร่วมชั่วโมงก็เป็นได้ แมวบางตัวมีอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย เช่น หัวตก เดินไม่ไหวคล้ายกับคนเมา เสียการทรงตัว มีหน้าและฝ่าเท้าบวม และอาจมีอาการทางระบบทางเดินหายใจร่วมเช่น หายใจขัด หอบ และชักในที่สุด
อีกอาการซึ่งมักพบได้คือ มีปัญหาที่ระบบการขับปัสสาวะ แมวไม่ปัสสาวะเหมือนปรกติ เช่น ปัสสาวะน้อยมากหรือไม่ปัสสาวะเลย ซึ่งนั่นเป็นผลจากไตวายเฉียบพลันนั่นเอง การช่วยเหลือในเบื้องต้น แมวตัวที่กินเกสร ใบหรือลำต้นของลิลลี่เข้าไปนั้น ถ้าเราเห็นแน่ๆ ว่ากินเข้าไปแล้วอันดับแรกคือ ต้องทำให้อาเจียนออกมา ด้วยวิธีง่ายๆ คือ ให้ใช้เกลือป่น หรือ Baking soda ราวๆ 1 ช้อนชาป้อนแมว หลังจากนั้นไม่นานนักเค้าก็จะอาเจียนออกมา ต่อจากนั้นให้รีบป้อนผงถ่านเม็ดให้แมวกินก่อน เพื่อดูดพิษที่อยู่ในทางเดินอาหารไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด ถ้าไม่สามารถสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้อาเจียนได้ เช่น เกลือหมด Baking soda ก็ไม่มี ถ้าเป็นเช่นนั้นให้ป้อนผงถ่าน(ซึ่งควรมีติดบ้านไว้เป็นอย่างยิ่ง)ก่อนจากนั้นให้รีบพาแมวไปหาสัตวแพทย์ด่วน
แมวตัวไหนบ้างที่มีความเสี่ยง ก่อนอื่นต้องขอแนะว่า บางครั้งเราไม่รู้ว่า แมวได้กินอะไรถึงมีอาการผิดปรกติอย่างที่ว่าในเบื้องต้นนี้ การพาแมวไปหาสัตวแพทย์เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วครับ แต่ต้องไม่ลืมบอกเล่าเท้าความด้วยว่า ในบ้านเรามีสิ่งใดซึ่งอาจทำให้เกิดพิษต่อเจ้าเหมียวได้ อย่างเช่นดอกลิลลี่ เพราะถือเป็นข้อมูลที่ทำให้คุณหมอได้คำนึงถึงเพื่อประกอบการรักษาเช่นกัน สำหรับแมวตัวที่น่าเป็นห่วงคือ บรรดาเหมียวที่อาศัยอยู่ในย่านที่มีร้านขายดอกไม้อยู่มากๆ ในกรุงเทพฯ ก็แถวๆ ปากคลองตลาดนั่นล่ะครับ รับรองได้ว่าหาเกสรของดอกลิลลี่ได้ง่ายมาก เช่น ในถังขยะ เพราะก่อนแต่งช่อดอกไม้มักมีการเด็ดเกสรทิ้ง ท่านใดที่เลี้ยงแมวในบริเวณนั้น หรือย่านนั้นๆ ควรระวังให้ดีครับ เพราะเหมียวแสนซนอาจกินเข้าไปได้ หรือท่านใดที่เปิดร้านดอกไม้และเลี้ยงแมวอยู่ในร้านด้วย อันนี้ก็ขอเตือนให้ระลึกไว้เลยว่า ดอกลิลลี่กับแมวไม่ถูกกัน
ข้อมูลจาก http://th.88db.com/th/Knowledge/Knowledge_Detail.page/Pets/?kid=463